เพลงรัก....ของคนแอบรัก
คุณยังจำได้ไหม ความรักครั้งแรกของคุณเป็นอย่างไร สุข หรือทุกข์... สมหวัง หรือผิดหวัง...
ผู้เข้าชมรวม
89
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ผมไม่รู้หรอกว่าทำไมชีวิตผมถึงต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่มีอะไรมาก่อนเลยที่ทำให้ผมคิดว่าจะมีเรื่องอะไรแบบนี้....
ผมยังคงจำวันนั้นได้ดี ยังคงจำได้อย่างชัดเจน ถึงแม้ว่ามันจะผ่านมาเนิ่นนานเพียงใด ภาพเหล่านั้นก็ยังคงชัดเจน ราวกับว่ามันเพิ่งจะเกิดขึ้นมาสดๆร้อนๆ วันแรกที่ผมพบกับเธอ.....
วันนั้นเป็นวันกิจกรรมของมหาวิทยาลัย นักศึกษาต่างสนุกสนานเพลิดเพลินไปกับการแสดง กิจกรรม และสิ่งต่างๆที่แต่ละคณะนำมาประชันกัน ผมเองก็เช่นกัน ผมเดินดูงานของคณะอื่นๆอย่างเพลิดเพลิน มันนานแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ที่ผมไม่มีโอกาสได้เดินเที่ยวอย่างสบายอารมณ์แบบนี้ ผมเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย จนกระทั่ง... “โครม” ผมปะทะเข้ากับใครคนหนึ่งที่เดินสวนมาอย่างเร็ว จนต่างฝ่ายต่างผงะกระเด็นล้มลงไปทั้งคู่ ทันทีที่ผมตั้งหลักได้ ผมก็เตรียมโวยเต็มที่ “นี่คุณทำอะไรของ...” ผมชะงักถ้อยคำไปอย่างไม่รู้ตัวทันทีที่เห็นหน้าคู่กรณีของผมชัดๆ พริบตานั้นเหมือนสมองของผมจะหยุบทำงานไปชั่วขณะ เธอช่างสวยเหลือเกิน ผมยาวดำขลับเป็นประกาย นัยน์ตาหวานซึ้ง ปากเล็ก จมูกรั้น ใบหน้าสวยใส แก้มชมพูระเรื่อ อาจเพราะอากาศร้อนหรืออะไรก็ตามที แต่ใบหน้าสวยใสไร้เครื่องสำอางนั้นราวกับจะดึงวิญญาณของผมให้ล่องลอยไปไกลเสียแล้ว... “คุณคะ เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงหวานใสปลุกผมขึ้นมาจากภวังค์ ดึงผมให้กลับมาสู่โลกแห่งความจริง “คะ..ครับ มะ..ไม่เป็นอะไรครับผม ละ..แล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผมรัวคำพูดออกไปเป็นชุดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก “ไม่เป็นไรค่ะ ต้องขอโทษจริงๆนะคะ พอดีว่าเรากำลังมองหาเพื่อนอยู่น่ะ” ถึงเธอจะไม่ขอโทษ คำว่าโกรธก็ไม่มีอยู่ในสมองผมตอนนี้แล้วล่ะ เพราะตอนนี้ความรู้สึกอื่นมันแทรกซึมเข้ามาเต็มสมองและหัวใจผมหมดแล้ว “แน่ใจนะคะว่าคุณไม่เป็นอะไร” เสียงเธอปลุกผมขึ้นมาอีกครั้ง “คะ..ครับ ไม่เป็นอะไรจริงๆ” ผมตอบไปงงๆ ทำไมเธอถามแบบนั้นหว่า ผมงงไปพักหนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าทำไม ผมรีบยันตัวยืนขึ้นทันทีพร้อมกับส่งยิ้มเจื่อนๆให้เธอ นี่ผมตะลึงจนลืมลุกขึ้นยืนเลยเหรอวะเนี่ย “งั้นเราไปก่อนนะ ขอโทษอีกทีค่ะ” เธอยิ้มให้ผมก่อนจะเดินจากไป รอยยิ้มของเธอมันช่างงามบาดใจอะไรเช่นนี้ ทำเอาผมตะลึงไปอีกครั้ง ซึ่งมันทำให้ผมตัดสินใจที่จะทำอะไรบางอย่าง “เอ่อ...เธอครับ เธอ” ผมหันไปเรียกเธอ “คะ” เธอหันกลับมามองผม ท่าทางของเธอทำเอาผมตะลึงอีกแล้ว “ว่าไงคะ” เสียงเธอทำให้ผมตื่นจากภวังค์อีกครั้ง “คือ....” ผมพูดต่อไม่ออก เธอเอียงคอมองอย่างสงสัย “คะ” “คือ...ผมชื่อต่อครับ อยู่คณะวิทยาศาสตร์ แล้ว...เอ่อ..คุณล่ะครับ” นี่ผมทำอะไรลงไปวะเนี่ย จีบสาวกลางถนนเนี่ยนะ หน้าเธอเปลี่ยนเป็นสีเข้มทันที แก้มสีชมพูระเรื่อ เปลี่ยนเป็นสีชมพูจัดอย่างรวดเร็ว “เรา..” คราวนี้เป็นเธอที่เป็นฝ่ายไปไม่เป็นบ้าง มันก็แหงล่ะ คนเป็นสิบที่มุงดูเราอยู่ ก็เล่นชนกันกลางทางเสียขนาดนั้น “เรา..” เราที่สองมาแล้ว หน้าเธอคราวนี้กลายเป็นสีแดงแล้ว อ้าวเฮ้ย ดูดีดีแล้วน้ำตาเธอคลอเบ้าแล้วนี่หว่า ซวยแล้วไงตู ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายไปมากกว่านั้น ก็มีเหตุการณ์หนึ่งเกิดขึ้นขัดจังหวะเสียก่อน “นี่นายทำอะไรเพื่อนฉันน่ะ” เสียงดังมาจากข้างหลังผมเลยครับ ผมรีบหันกลับไปทางต้นเสียงอย่างรวดเร็ว... “เปรี้ยง” ดวงดาวส่องสว่างพร่างพรายเลยรับ หมัดเล็กๆนุ่มๆแต่หนักหน่วงกระแทกเข้าตาซ้ายผมอย่างจัง ทำเอาผมกระเด็นลงไปนั่งอีกรอบเลยครับ คราวนี้ถึงกับนับดาวเลยทีเดียว.... “เป็นอะไรหรือเปล่า” เสียงเจ้าของหมัดหนักถามขึ้น “อ้อ...” “ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่เป็นไร” ผมกำลังจะตอบ พอดีกับที่ได้ยินเสียงเธอเสียก่อน ไม่ได้ถามตูนี่หว่า หน้าแตกจ้ะ “ดีแล้วล่ะ งั้นเราไปกันเถอะ” อ้าวเฮ้ย จะรีบไปไหน ผมยังไม่ทันได้รู้จักเธอเลยโธ่ ไปเสียแล้วนางฟ้าของผม “เอ่อ...เป็นอะไรไหมครับ” หนึ่งในไทยมุงซึ่งสงสัยว่าจะหายตะลึงแล้วเข้ามาช่วยพยุงผม “เจ็บครับ” ผมตอบได้แค่นั้นจริงๆ
ครับ นี่แหละการพบกันครั้งแรกระหว่างผมกับเธอ ฟังดูเลวร้ายไหมล่ะครับ มันช่างไม่โรแมนติคเอาเสียเลย แต่มันก็เป็นวันที่ทำให้ผมได้เจอเธอ เธอคนที่ทำให้ให้ชีวิตผมเปลี่ยนไป....
“เฮ้ยต่อ ได้ข่าวว่าเมื่อวานมึงไปจีบสาวกลางถนนเหรอวะ” จู่ๆไอ้แสบเพื่อนผมก็ถามขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย “เฮ้ย รู้ได้ไงวะ” ผมถามงงๆ “โธ่เพื่อนรัก เขาลือกันไปทั้งคณะแล้วมั้ง ดังแล้วมึงอะ” เพื่อนอีกคนเสริม “ขนาดนั้นเลยเหรอวะ” ผมยังไม่เชื่อ ไอ้พวกนี้ยิ่งชอบอำผมอยู่ด้วย “อะแฮ่ม ผมชื่อต่อครับ อยู่คณะวิทยาศาสตร์ ถุยครับ คนดูเป็นสิบ แล้วมึงคิดว่าคนที่รู้จักมึงในมหาลัยเรามันน้อยมากเลยดิ พ่อซุปเปอร์สตาร์” อ้าว ล้อเลียนกันไม่พอยังมาแขวะกันอีก “ใช่ๆ พี่ต่อวิทยา ใครๆก็รู้จัก สาวๆหมายปองกันเกือบทั้งคณะ” ”ก็เกินไปเพื่อน เกินไป” ผมว่ามันชักไปไกลละ “เกินไปที่ไหนวะ สาวๆมาจีบมึงเยอะแยะ ทั้งน้องกิ้ฟเชอรี่น้องไวน์....” “พอๆ เริ่มไปไกลละมึง แล้วว่าแต่ผลเป็นไงบ้างวะ” ไอ้แสบขัดก่อนที่เพื่อนผมมันจะพาออกทะเลไปไกลกว่านี้ ซึ่งตรงกับใจผมมาก “โธ่ ระดับพี่ต่อ จะเหลือเหรอ” ยัง มันยังไม่เลิก นี่มันแอบเป็นแฟนคลับผมหรือเปล่าวะเนี่ย “ผลเหรอ ก็เป็นแบบนี้ว่ะ” ผมตอบพลางถอดแว่นดำออก “เฮ้ย นี่มึงแต่งหน้าเป็นหลินปิงเหรอวะ” พวกมันประสานเสียงหัวเราะลั่น ครับ ตาซ้ายผมเขียวช้ำเป็นหมีแพนด้าเลยล่ะครับ แถมวันนี้ยังเป็นเวรผมต้องอยู่ทำงานอีก เวรกรรมจริงๆ หลังจากพวกมันหัวเราะจนพอใจ(ซึ่งกินเวลาไปพอสมควร) พวกมันก็หันมาสอบสวนผมเหมือนผมเป็นผู้ต้องหาเลยครับ และพอผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง ผลตอบรับก็ตามผมที่คาดไว้เลยครับ พวกมันหัวเราะลั่นกว่าทีแรกอีก เฮ้อ...เวรกรรมจริงๆ ก่อนที่ผมจะกลายเป็นตัวตลกไปมากกว่านี้ เพื่อนผมข้างนอกก็ตะโกนเข้ามาขัดจังหวะ “ต่อ ต่อ มีคนมาหา” “เออ แปปหนึ่ง” ผมตะโกนตอบก่อนที่จะใส่แว่นดำแล้วเดินออกไป ใครกันช่างมาหาในวันที่ผมไม่อยากพบคนอื่นที่สุด เซ็งจริงๆ “เฮ้ยใครวะ โคตรน่ารักเลย” ไอ้แสบมันเดินตามผมออกมาด้วย ผมไม่ได้ตอบอะไรมันเพราะมัวแต่ตะลึงอยู่ ถึงผมจะคิดถึงเธอตลอดทั้งวัน และฝันถึงเธอตลอดทั้งคืนก็เถอะ แต่การเจอเธออีกครั้งมันก็เหนือความคาดหมายผมไปมากโขเลย ภาพในจินตนาการเทียบไม่ติดเลย ดูเธอน่ารักกว่าเมื่อวานเสียอีก “เฮ้ย ไอ้ต่อ” เสียงไอ้แสบตัวแสบทำเอาผมถึงกับสะดุ้ง “อะไรของมึง” ผมกระซิบตอบ “กูถามว่านี่ใครวะ” มันทวนคำถามเดิมอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะทันตอบอะไรไป เสียงหวานๆก็ดังขึ้นเสียก่อน “เราพาเพื่อนมาหาคุณน่ะ” ผมเพิ่งสังเกตว่าเธอไม่ได้มาคนเดียว เพื่อนของเธอจัดว่าเป็นคนสวยเลยทีเดียว สูงโปร่ง ขาว หุ่นดี หน้าคมผมยาว แต่ผมก็ยังนึกไม่ออกอยู่ดีว่าผมรู้จักเธอหรือเคยเจอกัน “หาผมเหรอ” ผมถามงงๆ “ใช่จ้ะ” เธอบอกอีกครั้ง ก่อนที่ผมจะทันตอบอะไรเธอ เพื่อนของเธอก็พูดแทรกเข้ามาก่อน “คือ...ฉันขอโทษนะ คือฉันไม่รู้ว่า..” ชัดเลยครับ เสียงนี้ผมจำได้อย่างแม่นยำ เธอคนนี้ที่ทำให้ผมตกอยู่ในสภาพหมีแพนด้าหน้าหล่อนั่นเอง เจ้าของกำปั้นที่ส่งผมลงไปนอนนับสิบเมื่อวาน “ฉันเห็นแพรยืนน้ำตาคลออยู่ ฉันก็นึกว่านายทำอะไรเพื่อนฉันน่ะสิ ขอโทษนะ” เป็นอันว่าผมก็รู้ชื่อนางฟ้าของผมแล้วสิ คนอะไรไม่รู้รูปงามไม่พอ นามยังเพราะอีก “ไม่เป็นไรหรอกครับ” ผมตอบพร้อมกับส่งยิ้มหล่อไปให้ และไม่ลืมหันไปยิ้มให้แพรด้วย “เอ่อ...แล้วว่าแต่คุณชื่ออะไรกันเหรอครับ” ผมแกล้งถามเพื่อความแนบเนียน “ฉันชื่อดาว ส่วนเพื่อนฉันชื่อแพร เรียนอยู่คณะศึกษาศาสตร์น่ะ” อ๋อ ที่แท้ก็เด็กศึกษาศาสตร์ คนจะเป็นครูนี่น่ารักขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย “ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” ผมบอกสองสาวพร้อมกับยิ้มหล่อให้แพรอีกครั้ง “งั้นพวกฉันไปก่อนนะ พอดีมีธุระน่ะ” ดาวบอกพร้อมกับฉุดมือแพรเดินจากไป... “เฮ้ยต่อ นี่เหรอวะคนเมื่อวาน” ทันที่ที่สองสาวออกไปพ้นระยะการได้ยิน ไอ้แสบก็รีบถามอย่างรวดเร็ว “เออ” ผมตอบสั้นๆ “น่ารักโคตรเลยว่ะ นี่ถ้าได้เป็นแฟนนะรักตายเลย” มันยังพูดไม่หยุด “เพ้อเจ้อแล้วมึง ไร้สาระน่า กลับไปทำงานต่อดีกว่า” ผมบอกมันทั้งๆที่ในหัวผมตอนนี้มีแต่ภาพของแพรลอยวนเวียนอยู่เต็มไปหมด.....
เวลาผ่านไปหลายเดือน ผมกับแพรสนิทกันมากขึ้นเรื่อยๆด้วยความพยายามของผม ยิ่งผมสนิทกับเธอมากขึ้นเท่าไร ผมก็ยิ่งรู้สึกว่าแพรน่ารักมากขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้ผมกลายเป็นเพื่อนต่างเพศที่สนิทที่สุดของแพรไปแล้ว แต่ผมก็ยังไม่กล้าบอกความรู้สึกของผมให้เธอรู้สักที ผมยังไม่กล้าที่จะเสี่ยง ผมกลัวว่าถ้าหากเธอรู้ เธอจะไม่เหมือนเดิมกับผมอีก....
เกือบครบปีแล้วที่ผมรู้จักกับแพร ตอนนี้เราสนิทกันจนเพื่อนๆเกือบทั้งมหาวิทยาลัยมองว่าเราเป็นแฟนกันหมดแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรของแพรที่เธอจะไม่ปรึกษาผม ไม่มีเรื่องอะไรของแพรที่ผมจะไม่รู้ ไม่มีความลับอะไรระหว่างเรา ผมก็ปลื้มนิดๆนะ แต่ผมก็รู้ความจริงดีว่าจริงๆแล้วเราเป็นแค่เพื่อนสนิทกันเท่านั้น นั่นทำให้ผมไม่กล้าบอกรักเธอ.....
วันนั้นเป็นวันครบรอบหนึ่งปีที่เรารู้จักกัน และเป็นวันที่ผมตั้งใจจะเผยความรู้สึกในหัวใจของผมสักที ความรู้สึกที่ผมเก็บมันไว้มาหนึ่งปีเต็มๆ ความรู้สึกที่ผมแน่ใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เราเจอกัน ความรู้สึกที่ว่า ”ผมรักเธอ”....
วันนั้น ผมตื่นแต่เช้า สะพายกีตาร์ ซื้อกุหลาบช่อใหญ่ แล้วเป็นนั่งรอเธอที่ตึกส้มใต้คณะของเธอ ผมรู้ดีว่าวันนี้เธอมีเรียนช่วงเช้า ผมส่งข้อความไปหาเธอด้วยใจที่เต้นระรัว เธอจะรู้ไหมนะ ว่าวันนี้ผมตั้งใจมารอเธอด้วยความรู้สึกแบบไหน เธอจะรู้ไหมนะ ว่าวันนี้ของปีที่แล้วเป็นวันแรกที่เราเจอกัน และเป็นวันเดียวกับที่ผมเริ่มตกหลุมรักเธอ...
แปดโมงแล้ว....อีกไม่นานเธอก็คงมา เธอไม่เคยเข้าเรียนสาย...ผมรู้ดี
แปดโมงครึ่ง....ได้เวลาเข้าเรียนของเธอแล้ว แต่ทำไมเธอยังไม่มากันนะ....
เก้าโมงครึ่ง....เวลาเข้าเรียนผ่านไปเป็นชั่วโมงแล้ว ยังไม่มีวี่แววของเธอเลย เกิดอะไรขึ้น....
สิบเอ็ดโมง....เลยเวลาเลิกมาจะครบชั่วโมงแล้ว ผมยังไม่เห็นเธอเลย เธอหายไปไหนกัน....
บ่ายโมง....แพรเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้นกับเธอหรือเปล่า ทำไมเธอยังไม่มา....
สี่โมงเย็น....นักศึกษาเริ่มหมดไปจากตึก ผมนึกขึ้นมาได้ว่าผมยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า แต่ผมต้องรอแพร....
หนึ่งทุ่ม....อาคารเริ่มมืดแล้ว ผมมองดุแสงไฟของหอพักชายด้านตรงข้าม ผมพยายามโทรหาแพรตั้งแต่สิบโมงครึ่ง แต่ก็ติดต่อไม่ได้ แพรคงไม่ได้หลบหน้าผมใช่ไหม....
สี่ทุ่ม....ผมรู้สึกใจหวิวๆแปลกๆ รู้สึกไม่ดีเลยทำไมกันนะ ยังไม่มีวี่แววของแพร หรือเธอจะไม่รับไมตรีจากผมจริงๆ แต่ยังไงผมก็จะรอเธอ....
ห้าทุ่มครึ่ง....ผมคงหมดหวังแล้วล่ะ แพรไม่เคยออกมาดึกขนาดนี้มาก่อน ความรักครั้งแรกของผมก็คงจบลงแบบนี้ จบลงทั้งๆที่ผมยังไม่ได้บอกเลยด้วยซ้ำ แต่เอ๊ะ นั่นใครกันน่ะ แสงไฟจากหอพักชายตรงข้ามคณะสาดเข้ามาให้ผมเห็น นั่นแพรนี่นา แพรจริงๆด้วย ในที่สุดเธอก็มาแล้ว “ขอโทษนะต่อ ที่แพรมาสาย” เธอพุดเสียงเบาราวกระซิบ เธอคงกลัวผมโกรธ แต่ไม่มีทางหรอก ผมไม่มีทางที่จะโกรธเธออยู่แล้ว ผมหยิบกีตาร์ขึ้นมาแล้วเริ่มเล่นเพลง เพลงที่ผมตั้งใจเลือกมา เพลงที่ผมหัดเล่นมาเพื่อให้เธอได้ฟัง เพลงที่ผมตั้งใจแทนความรู้สึกที่มี
“คำเป็นหมื่นคำ เลือกมาทุกคำแทนใจ ใจเพียงหนึ่งใจ ที่มันไม่มีอะไรให้เธอ
คนเพียงหนึ่งคน เก็บเอาใจมาร้อยเป็นเพลงให้เธอ อาจไม่ถึงกับดีเลิศเลอ แค่อยากจะทำให้เธอภูมิใจ
เพลงที่ได้ยิน คงไม่เหมือนกับเพลงอื่นทั่วไป เพลงจากหัวใจ เป็นของขวัญให้เธอผู้เดียว
บทเพลง ที่เก็บเอาดาวทุกดวง เขียนเป็นท่วงทำนองขับขาน ถักทอและเรียงร้อยคำ จากหัวใจ
บทเพลง ที่เป็นดังคำสัญญา ว่าจะอยู่ข้างเธอตลอดไป ให้เพลงผูกพันสองใจ นานเท่านาน ชั่วนิรันดร์....ต่อรักแพรนะ”
ในที่สุดผมก็กล้าที่จะพูดความในใจของผมออกไปสักที แพรเงียบไปพักใหญ่ แล้วจู่ๆ....น้ำตาเธอก็ไหลออกมา “แพรรู้ไหม ต่อรักแพรตั้งแต่แรกพบ รักตั้งแต่ที่ต่อได้เห็นหน้าแพรครั้งแรก วันนี้ของปีที่แล้วไง” แพรเริ่มสะอึกสะอื้น “แพรเชื่อไหม ต่อไม่เคยเชื่อในรักแรกพบมาก่อนเลย จนกระทั่งต่อได้มาเจอกับแพร แพรทำให้ต่อรู้จักความรัก แพรทำให้โลกของต่อสดใส ต่อรักแพรนะ รักมาก” ผมยังคงพูดต่อไป แต่เธอยังคงร้องไห้ไม่หยุด ผมกำลังจะเอื้อมมือไปกุมมือเธอเอาไว้ แต่เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเสียก่อน “แพร แพรอยู่ที่นี่หรือเปล่า” เสียงดาวนี่นา สงสัยจะออกมาตามหาแพร “อยู่นี่ดาว แพรอยู่กับเรา” ผมตอบแทนแพร “แพรทำแบบนี้ได้ยังไง รู้ไหมว่ามันอันตราย” ดาวพูดกับแพรโดยไม่มีทีท่าว่าจะสนผมเลย อ้าวเฮ้ย ดาวไม่ไว้ใจผมหรอกเหรอเนี่ย ผมกำลังจะเถียงแต่พอดีที่แพรพูดขึ้นมาก่อน “แพรรู้...” แพรตอบดาวเสียงเครือ “ต่อนัดแพรมาที่นี่.....ต่อก็ต้องคุ้มครองแพรสิ” แพรยังพูดไม่ทันจบประโยค แพรก็ร้องไห้ขึ้นมาอีกแล้ว ผมเริ่มรู้สึกแปลกๆ ทำไมแพรร้องไห้ไม่หยุดเลย หรือว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอก่อนที่เธอจะมาถึงกันนะ “ฉันเข้าใจ แต่เธอต้องทำใจนะแพร ว่าต่อมันไปสบายแล้ว” เฮ้ย ยายดาว แช่งกันต่อหน้าแบบนี้เลย นี่ไม่ชอบผมจริงๆเหรอเนี่ย แต่คำตอบของแพรยิ่งทำให้ผมงงหนัก “แพรรู้ แต่...” แพรพูดได้แค่นั้นก็ร้องไห้กอดดาวเอาไว้ นี่มันหมายความว่าไง เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ผมงงไปหมดแล้ว....
พริบตานั้นเอง ความทรงจำบางอย่างของผมก็แทรกขึ้นมา ผมไปที่ตลาดเพื่อซื้อกุหลาบช่อใหญ่ให้แพร ผมข้ามถนนพร้อมกับส่งข้อความไปหาเธอ “ตูม” ผมได้ยินเสียงดังมาก หูผมอื้อไปหมดเลย โลกทั้งโลกวูบไปชั่วขณะหนึ่ง ถัดจากนั้นไม่นานหูผมก็ได้ยินเสียงแว่วมา เสียงดังเหมือนมาจากที่ไกลๆ “รถชนคน” อะไรนะ ผมฟังไม่ค่อยถนัดเลย แต่ช่างมันเถอะ ผมต้องรีบไปรอแพร ผมคิดถึงเธอ ผมบอกเธอไปแล้ว ผมต้องทำตามสัญญา.....
“ต่อรอที่ใต้คณะแพรนะ ต่อจะรอจนกว่าแพรจะมา” หน้าจอกระพริบข้อความสุดท้าย ก่อนมันจะดับวูบไป....
ความทรงจำผมกลับมาแล้ว ผมจำได้แล้ว ผมไขปริศนาที่ข้องใจได้หมดแล้ว
ผมรู้แล้วว่า....ทำไมผมถึงโทรหาแพรไม่ได้
ผมรู้แล้วว่า....ทำไมแพรถึงมาช้า
ผมรู้แล้วว่า....ทำไมแพรถึงต้องร้องไห้
ผมรู้แล้วว่า....ทำไมแพรถึงไม่พูดกับผม
ผมรู้แล้วว่า....ผมตายไปแล้ว....
ผมพยายามกอดแพร แต่ผมก็ทำไม่ได้ ได้แค่เพียงฟังเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นของเธอ….
รักครั้งแรกของผมจบลงแล้วจริงๆ จบลงโดยที่เธอยังไม่ได้ฟังคำสารภาพของผม และผมไม่มีวันได้รู้ความในใจของเธอ.....
เอาล่ะ....หากคุณผ่านมาแถวนี้ บางครั้งคุณอาจจะได้ยินเสียงเพลงของผม อย่าแปลกใจเลย มันเป็นเพลงที่ผมตั้งใจจะมอบให้เธอ เธอผู้เป็นรักแรก....และรักสุดท้ายของผม
“บทเพลง ที่เป็นดังคำสัญญา ว่าจะอยู่ข้างเธอตลอดไป ให้เพลงผูกพันสองใจนานเท่านาน....ชั่วนิรันดร์”
---End---
ปล. ขออภัยหากสถานที่ในเรื่องจะไปคล้ายกับมหาวิทยาลัยดังสักแห่งในย่านนครปฐม
ปล.2 ขอบคุณเพลง แทนใจ ครับ
ผลงานอื่นๆ ของ The moon child ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ The moon child
ความคิดเห็น